วันเสาร์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ยุคบารอค ยุครอคโคโค ยุคเรเนอซองส์


ศิลปะแบบบารอค

 พระราชวังแวร์ซายส์

         เป็นศิลปะที่พัฒนามาจากศิลปะแบบเรเนสซองส์ ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 17-18 มีลักษณะเฉพาะ คือ การแสดงออกถึงความมีอิสรภาพของมนุษย์ตามแนวความคิดมนุษยนิยม ( Humanism) ผลงานที่ปรากฎ มักแสดงออกถึงลักษณะแน่นอนตายตัวของศิลปิน
        ศิลปะแบบบารอค เกิดขึ้นในช่วงที่รัฐต่างๆ ในยุโรปมีความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจและมีความมั่งคั่งทางการเมือง เป็นผลให้พระราชวงศ์ ขุนนาง และพ่อค้ามีความพร้อมที่จะอุปถัมภ์การสร้างสรรค์ผลงานของศิลปินแขนงต่างๆ ได้อย่างเต็มที่
งานสร้างสรรค์ศิลปวัฒนธรรมแบบบารอค
     1. งานจิตรกรรม ส่วนใหญ่ยังคงรับรูปแบบและเทคนิคจากสมัยเรเนสซองส์ แต่ได้พัฒนาฝีมือและเทคนิคการผสมสีที่วิจิตงดงามยิ่งขึ้น นิยมใช้สีสดและฉูดฉาด ภาพวาดมักปรากฎตามวัด วัง และคฤหาสน์ของชนชั้นกลางผู้มั่งคั่ง แสดงชีวิตความเป็นอยู่ที่หรูหราสุขสบายของเจ้านายและเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับคริสต์ศาสนา
     2. งานสถาปัตยกรรม แสดงออกถึงความใหญ่โตหรูหรา และการประดับประดาที่ฟุ่มเฟือย โดยนำความรู้ทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์มาใช้งานก่อสร้างมากขึ้น ผลงานชิ้นสำคัญของศิลปะแบบบารอค คือ พระราชวังแวร์ซายส์ ( Versailles ) ของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส
     3. ศิลปะด้านดนตรี มีการพัฒนาไปมากทั้งการร้องและการบรรเลงเครื่องดนตรี ขนาดของวงดนตรีขยายใหญ่ จากแบบ Chamber Music ที่ใช้ผู้เล่นไม่กี่คน มาเป็นแบบ Orchestra ที่ใช้ผู้เล่นและเครื่องดนตรีจำนวนมาก มีการแต่งเพลงและใช้โน้ตเพลง และเปิดการแสดงดนตรีในห้องโถงใหญ่ๆ นักดนตรีสำคัญ คือ โยฮันน์ เซบาสเตียน บาค (Johann Sebastian Bach) ชาวเยอรมัน ซึ่งแต่งเพลงทางด้านศาสนาเป็นส่วนใหญ่
     4. งานด้านวรรณกรรม ในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 17 ได้ชื่อว่าเป็นยุคทองแห่งวรรณกรรมยุโรป มีผลงานชิ้นเอกของนักประพันธ์ชาวอังกฤษและฝรั่งเศสเกิดขึ้นมากมาย ที่เด่นคือ งานเขียนทางปรัชญาการเมืองของ จอห์น ลอค ( John Lock) และผลงานของนักเขียนบทละครเสียดสีสังคมชั้นสูง ชื่อ โมลิแอร์ ( Moliere) เป็นต้น




อ้างอิงจาก
http://202.143.144.83/~skb/computor/ganjana/west_modern_baroque.htm




                                                                     ศิลปะร็อคโคโค



Venus et l'amour โดย ฟรังซัวส์ บูแชร์

              ศิลปะร็อคโคโค (Rococo) หมายถึง ศิลปะการตกแต่งภายในอาคารและรูปลักษณ์ของลวดลายที่หรูหรา เป็น ศิลปะยุคท้ายของสมัยบาร็อค มีรูปแบบที่แสดงถึงความต้องการของบุคคลสังคมชั้นสูง

   ลักษณะของงานศิลปะที่สำคัญ
   จิตรกรรม 
  - งานจิตรกรรมของร็อคโคโค มักจะถ่ายทอดหรือสะท้อนสภาพสังคมที่หรูหราในยุคนั้น
  - ภาพทิวทัศน์มีการให้แสงที่นุ่มนวล บรรยากาศคล้ายความฝัน
  - ภาพหญิงสาวจะมีผิวขาวอมชมพู มีอารมณ์ร่าเริง
  - เรื่องราวเกี่ยวกับเทพนิยาย

 งานประติมากรรม
  - มีจุดเด่นคือความประณีต
  - ร่างกายคนมีลักษณะผอม บอบบาง นุ่มนวล แสดงความเคลื่อนไหวอย่างอ้อนช้อยคล้ายงานจิตรกรรม
งานสถาปัตยกรรม
- มีความละเอียดหรูหรา มีเส้นโค้งฉวัดเฉวียน ให้ความนุ่มนวล อ่อนหวานบอบบาง
- ผลงานศิลปะประยุกต์ ที่เป็นแบบอย่างศิลปะร็อคโคโค เช่น การตกแต่งภายใน การออกแบบเครื่องเรือน
เครื่องมือเครื่องใช้ มีรูปทรงบอบบาง ประดับลวดลายเป็นเส้นคดเคี้ยว คล้ายหยดน้ำ หรือขมวดคล้ายก้นหอย 


อ้างอิงจาก
http://krookong.net/west_arts/Miderval_ege/Rococo_art.html


                                                                     ยุคเรเนอซองส์

ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา หรือ ยุคเรอเนซองส์ (Renaissance) เป็นช่วงเวลาที่เกิดการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมในทวีปยุโรป ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของวัฒนธรรมยุคใหม่ ยุคฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรมอยู่ระหว่างยุคกลาง (Middle Age) และยุคปัจจุบัน (Modern Age) การเริ่มต้นของยุคฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรมเริ่มต้นในประเทศอิตาลีในคริสต์ทศวรรษที่ 14 และยุโรปเหนือในคริสตทศวรรษที่ 16
ประวัติของยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา
            หลังจากสงครามครูเสดอันยาวนานร่วม 300 ปีสิ้นสุดลง ยุโรปก็เข้าสู่ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา เนื่องจากมีการขุดค้นพบซากเมืองโบราณของกรีกและโรมัน ทำให้ยุโรปได้นำศิลปวิทยาการจากการขุดค้นพบมาปรับปรุง ดัดแปลงใหม่ ทำให้ยุโรปมีความเจริญก้าวหน้าในศาสตร์ทุกๆด้าน อาทิเช่น
             ศิลปศาสตร์ ศิลปินและผลงานที่มีชื่อเสียง เช่น เลโอนาร์โด ดา วินชี ผู้วาดรูปโมนาลิซ่า ไมเคิล แองเจลโล ผู้ปั้นรูปปั้นเดวิด ซึ่งเชื่อว่าเป็นชายที่มีสัดส่วนสมบูรณ์ที่สุดในโลก ราฟาเอล ผู้กำกับการสร้างและตกแต่ง มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ เป็นต้น
             เทคโนโลยี เทคโนโลยีที่สำคัญคือ เทคโนโลยีการต่อเรือ โดยชาติที่เป็นผู้ริเริ่มคือ โปรตุเกส และ สเปน ซึ่งทำให้การติดต่อค้าขายกับเอเชียสะดวกขึ้น
           วิทยาศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงในยุคนี้ เช่น กาลิเลโอ ผู้ค้นพบกฎแรงโน้มถ่วง เป็นต้น
ตัวอย่างศิลปะแบบเรเนสซองค์ในไทย เช่น พระราชวังพญาไท
ศิลปะ
             ศิลปะเรอเนซองส์ (พ.ศ. 1940 - 2140) คำว่า "เรอเนซองส์" หมายถึง การเกิดใหม่ ซึ่งเป็นการระลึกถึงศิลปะกรีกและโรมันในอดีต ซึ่งเคยรุ่งเรืองให้กลับมาอีก ศิลปะเรอนเนซองส์ไม่ใช่การลอกเลียนแบบจากอดีต แต่เป็นยุคสมัยแห่งการเน้นความสำคัญของลักษณะเฉพาะบุคคล มีความสนใจลักษณะภายนอกของมนุษย์ และ ธรรมชาติ เป็นแบบที่มีเหตุผลทางศีลธรรม ก่อให้เกิดความกระตือรือร้นในการค้นหาความรู้ทาง วิทยาศาสตร์ และวิทยาการแขนงต่างๆ ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็น "ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ" โดยมีรากฐานมาจากประเทศอิตาลี และแผ่ขยายไปยังดินแดนต่างๆ ในยุโรป
              ในสมัยเรอเนซองส์ วัดยังคงเป็นผู้อุปถัมภ์ที่สำคัญของเหล่าศิลปินนอกจากนี้ยังมีพวกขุนนาง พ่อค้าผู้ร่ำรวย ซึ่งเป็นชนชั้นสูงก็ได้ว่าจ้าง และอุปถัมภ์เหล่าศิลปินต่างๆ ด้วย ตระกูลที่มีชื่อเสียงเหล่านั้น ได้แก่ ตระกูลวิสคอนตี และสฟอร์ซา ในนครมิลาน ตระกูลกอนซากาในเมืองมานตูอา และตระกูลเมดิชีในนครฟลอเรนซ์ การอุปถัมภ์ศิลปินนี้มีผลในการกระตุ้นให้ศิลปินใฝ่หาชื่อเสียง และความสำเร็จมาสู่ชีวิตมากขึ้น ผลงานของศิลปินที่มีทั้ง จิตรกรรม ประติมากรรม และสถาปัตยกรรม ทำให้ชื่อเสียงของศิลปินหลายคน เป็นที่รู้จักทั่วโลกตลอดกาล เช่น ลีโอนาร์โด ดา วินชี มิเกลันเจโล ราฟาเอล สถานภาพทางสังคมของศิลปินเป็นที่ยอมรับกันอย่างสูงในวงสังคม เกิดสำนักทางศิลปะเพื่อฝึกฝนช่างฝีมือ และเกิดมีศิลปินระดับอัฉริยะขึ้นมาอย่างมากมาย และในยุคเรอเนซองส์นี้เอง ที่มีการพัฒนาการพิมพ์ขึ้นในประเทศเยอรมนี ราวพุทธศตวรรษที่ 20 ทำให้ศิลปะการพิมพ์ได้เริ่มมีการสร้างสรรค์ขึ้นอย่างจริงจัง นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

อ้างอิงจาก
http://topten003.fix.gs/index.php?action=printpage;topic=93.0




3 ความคิดเห็น: