วันพุธที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2555

แหล่งท่องเที่ยวในเมืองหลวงที่ข้าพเจ้าประทับใจที่มีศิลปวัฒนธรรมตะวันตก



หอไอเฟล


             หอไอเฟล (Eiffel) สัญลักษณ์ของนครปารีส สร้างขึ้นใน ค.ศ.1887-9 ออกแบบโดยวิศวกรที่มีชื่อเสียงของฝรั่งเศสชื่อ กุสตาฟ ไอเฟล (Gustave Eiffel) เพื่อเป็นสัญลักษณ์การจัดงานแสดงสินค้าโลกในปี 1889 (พ.ศ. 2413) ฉลองครบรอบ 100 ปีแห่งการปฏิวัติอุตสาหกรรม



             หอไอเฟล (อังกฤษ: Eiffel Tower, ฝรั่งเศส: Tour Eiffel) หอคอยโครงสร้างเหล็ก ที่Champ de Mars บริเวณแม่น้ำแซน ในเมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส สถานที่และสัญลักษณ์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของฝรั่งเศส ก่อสร้างในปี พ.ศ. 2432 (ค.ศ. 1889) โดย กุสตาฟ ไอเฟล ผู้ออกแบบคนเดียวกับเทพีเสรีภาพ เพื่อเป็นสัญลักษณ์การจัดงานแสดงสินค้าโลกในปี 1889 (พ.ศ. 2413) ฉลองครบรอบ 100ปีแห่งการปฏิวัติอุตสาหกรรม หอไอเฟลทำขึ้นจากโลหะ 15,000 ชิ้น หนักถึง 7,000 ตัน ยึดต่อด้วยน๊อต 2,500,000 ตัว สีทาทั้งหมด 35 ตัน สูง 1,050 ฟุต สิ้นเงินค่าก่อสร้าง 7,799,401 ฟรังก์ แรกๆที่หอไอฟสร้างเสร็จ หอไอเฟลได้รับการประณามโดยทั่วไปว่าเป็นไอเดียที่ประหลาดและไม่เข้าท่า หอคอยไอเฟลได้ชื่อว่าเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในช่วงเวลา พ.ศ. 2432 - 2473 ในปัจจุบัน หอคอยไอเฟลมีนักท่องเที่ยวเยี่ยมชมประมาณ 5.5 ล้านคนต่อปี นับเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่
         การอ่านออกเสียงในภาษาฝรั่งเศสคือ /ɛ'fɛl/ อ่านเหมือนคำว่า "a-fell" และสำหรับคำในภาษาอังกฤษคือ /'aɪfəl/ อ่านเหมือนคำว่า "eye-full"
         หอไอเฟลมีความสูง 300 เมตร (986 ฟุต) ซึ่งไม่รวม เสาอากาศ 24 เมตร (72 ฟุต) ด้านบนนั้น ถ้าเปรียบเทียบกับตึกแล้วจะมีประมาณ 75 ชั้น ในขณะที่ก่อสร้างปี พ.ศ. 2432(ค.ศ. 1889) หอไอเฟลนั้นเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดบนโลก โดยถูกล้มตำแหน่งเมื่อเมืองนิวยอร์กได้สร้าง ตึกไครสเลอร์ สูง 319 เมตร(1046 พุต)
         น้ำหนักเหล็กที่ใช้ก่อสร้างนั้นทั้งหมด 7,300 ตัน และถ้ารวมทั้งหมดก็เป็น 10,000 ตัน ส่วนจำนวนบันไดนั้นเปลี่ยนแปลงตลอด เมื่อแรกเริ่มนั้นมี 1710 ขั้น ในทศวรรษที่ 1980 มี 1920 ขั้น และในปัจจุบัน มี 1665 ขั้น



          14 กรกฎาคม ค.ศ.1789 ท่ามกลางความต้องการที่จะปฏิวัติ ชาวปารีสได้เข้าโจมตีชนชั้นสูง บุกยึกคุกบัสติล ซึ่งมี ผู้มี ความคิดขัดแยงทางการเมืองถูกคุมขังเอาไว้ ผู้รักชาติได้รวมตัวกันเพื่อต่อต้านชนชั้นปกครอง ซึ่งเป็นการสร้างพื้นฐาน สำหรับ การเคลื่อนไหวประชาธิปไตยยุคใหม่
         อีก 1 ศตวรรษหลังการปฏิวัติ ความภาคภูมิใจของฝรั่งเศสถูกบั่นทอนด้วย ความพ่ายแพ้ของกองทัพต่อเยอรมัน ในปี 1870 และก็ ความคิดที่จะจัดงานแสดงสินค้านานาชาติ จึงเป็นหนทางอันยิ่งใหญ่เพื่อลืมความปวดร้าว และ เพื่อแสดงความ ยิ่งใหญ่ ความร่ำรวยของประเทศ จึงจำเป็นที่ต้องมีผลงานศิลปะชิ้นเอกที่อวดแก่ฝูงชน และจากความสำเร็จ ในยุคอุตสาหกรรม จึงนำเสนอความสำเร็จทางวิศวกรรม นั่นคือ หอคอย
          หอคอยเหมือนเป็นสิ่งที่ชาญฉลาดทางเทคโนโลยี ในอดีตไม่เคยมีใครสร้างหอคอยที่สูงกว่า 1,000ฟุต หลายคนพยายาม ลองแม้กระทั่งในสหรัฐอเมริกาก็มีการออกแบบไว้อยู่หลายแบบ แต่ก็ไม่เคยสร้างจริงขึ้นมา ฝรั่งเศสได้จัดการประกวด เพื่อ ออกแบบหอคอย แบบแรกถูกเสนอโดย เวอร์ริส คล็อกลิน ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะวิศวกรของ กุสตาฟ ไอเฟล (Gustave Eiffel)
          กุสตาฟ ไอเฟล เป็นทั้งสถาปนิกและวิศวกรชั้นนำของฝรั่งเศส ชื่อเสียงของเขาเกิดจาก การออกแบบสะพานที่เต็มไปด้วย จินตนาการ เขาค้นคว้าเกี่ยวกับแนวคิดในการออกแบบด้วยโครงสร้างโลหะ การที่มี กุสตาฟ ไอเฟล เข้ามาร่วมงาน จึงเป็น เครื่องรับประกันในเรื่องเงินทุนสนับสนุน และความสำเร็จของงาน วิศวกรหนุ่มของ กุสตาฟ ไอเฟล 2 คน คือ เวอร์ริส คล็อกลิน และ เอมิล นูลจิเย เริ่มแนวคิดในการสร้างหอคอยสูง 300 เมตร สำหรับงานแสดงสินค้าในปี ค.ศ.1890 ในปารีสเขาเริ่มร่าง แบบ โครงสร้างของหอคอยอย่างคร่าวๆ และขอให้สถาปนิกชื่อ สตีเฟน สเตาว์เธอร์ ออกแบบส่วนตกแต่งเพื่อเติม ซึ่งมีลักษณะ เป็นช่อ ดอกไม้ โค้ง และมีปติมากรรมเล็กๆ น้อยๆ โดยมีแรงบันดาลใจมาจากแนวคิดทางสถาปัตยกรรมฝรั่งเศส ในปี ค.ศ.1887 ว่าสามารถสัมผัสกับท้องฟ้าในระดับที่เป็นไปไม่ได้ คือ 1,000 ฟุต
         กุสตาฟ ไอเฟล ได้เห็นแบบแปลนและอนุมัติ เขาได้สนใจแนวคิดเกี่ยวกับหอคอยนี้ และได้ออกแบบส่วนตกแต่งเพิ่มเติม ที่เกี่ยวข้องกับตัวเขาเข้าไปด้วย การมีชื่อ กุสตาฟ ไอเฟล อยู่ในโครงการ ทุกคนรู้ผลลัพธ์ของการแข่งขันนี้ การมี สายสัมพันธ์ ์ทางการเมืองและสังคมของกุสตาฟ ไอเฟล ทำให้มีความพร้อมที่จะผลักดัน ให้โครงการผ่านหน่วยงาน ปกครอง ของปารีส ได้อย่าง รวดเร็ว และทำให้โครงการจากแบบแปลนสำเร็จเป็นจริงได้ หอคอยซึ่งออกแบบ จากความก้าวหน้า ในยุค อุตสาหกรรม เป็นงาน ที่มีความท้าทายทางวิศวกรรม และ กุสตาฟ ไอเฟล จะได้แสดงให้เห็นถึงความ ความคิดสร้างสรรค์ ของเขาที่เคยใช้ ในการ ออกแบบมาแล้ว
         28 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1887 กุสตาฟ ไอเฟล ได้เชิญแขกมากมายมาเป็นพยานในการก่อสร้าง เขาอายุ 53 ปี และหอคอย จะเป็นความสำเร็จที่สมบูรณ์แบบของเขา ในขณะที่พิธีการเริ่มขึ้น วิศวกร 50 คนต้องช่วยกันร่างแบบ จำนวน 5,300 แผ่นสำหรับ คนงาน 132 คน ใช้ในพื้นที่ก่อสร้าง ต้องใช้เวลา 4 เดือน ในการทำฐานรากสำหรับขาของหอคอย เสา 2 ต้น ถูกติดตั้งบนฐาน คอนกรีตหนา 6 ฟุตครึ่ง ที่ความลึก 23 ฟุตจากระดับดิน และมีขา 2 ข้างที่ใกล้กับแม่น้ำแซนมาก จึงต้องใช้ ้เขื่อนโลหะกันน้ำ ป้องกันในขณะที่ทำการเทคอนกรีตบนพื้นที่อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำ


         บนพื้นที่สี่เหลี่ยมจตุรัสของฐานหอคอยมีความกว้างด้านละ 426 ฟุต จะมีขาของหอคอยทั้ง 4 ในแต่ละด้าน รองรับ น้ำหนักของโครงสร้างโลหะกว่า 7,000 ตัน บนฐานจะเป็นฐานก่ออิฐซึ่งจะฝังสมอยึด 2 ตัวสำหรับขาแต่ละข้าง จากฐานนี้ ขา จะถูกขึ้นเป็นมุม 60 องศาในลักษณะคานโครงเหล็ก คานนี้ประกอบไปด้วยท่อนเหล็กและเหล็กแผ่นที่ถูกยึดติดกันที่ด้านข้าง โครงสร้างที่ได้จะมีความเข็งแรงมาก แต่มีนำหนักเบา ประกอบง่าย ใช้มาตรฐานเดียวกัน และ มีราคาไม่แพง เมื่อประกอบ เสร็จจะใช้ชิ้นส่วนโลหะทั้งหมด 18,000 ชิ้น และหมุดยึดอีก 2 ล้าน 5 แสน ตัว เพื่อประกอบเป็นหอคอย ทั้งหมดใช้ ้เพียงเหล็ก ท่อนแบนและแผ่นเหล็กในการประกอบ   

         ขั้นตอนแรกของการก่อสร้าง ขาทั้ง 4 ต้นจะถูกสร้างขึ้นพร้อมๆกันและจะบรรจบกันที่ชั้นแรกของหอคอย ด้วยมุมที่มี ีความลาดชั้น จึงต้องติดตั้งคำยันที่ขาทั้ง 4 ต้น และติดตั้งคำยันตรงกลางของฐานหอคอย เพื่อรองรับคานในแนวศูนย์กลาง ที่จะ ยึดโครงสร้างต่างๆ เอาไว้ ที่ขาแต่ละข้างมีแม่แรงไฮโดรลิกที่สามารถปรับระดับความสูงได้อย่าง -อิสระ และ เพื่อให้ได้ความ แม่นยำตามที่ต้องการ เมื่อขั้นตอนเหล่านี้เสร็จสิ้น กุสตาฟ ไอเฟล รู้ว่าไม่มีอะไรหยุดยั้งการบรรลุความฝันของเขาได้ หลายคน ก็กลัวว่าหอคอยจะทำ-ลายทัศนียภาพของกรุงปารีส กลุ่มศิลปินหลายคนกล่าวโจมตีว่าเป็นการเอาเปรียบของยุคอุตสาหกรรม และ เป็นโคมไฟที่น่าสมเพศที่ผลุดขึ้นมาจากปารีส กุสตาฟ ไอเฟล ได้โต้ตอบกลับอย่างรุนแรงว่า นี่คือสิ่งก่อสร้าง ที่สูงที่สุดที่มนุษย์ ์เคยสร้าง มันจะไม่มีความสง่างามในตัวของมันเองเลยหรือไร
         วันที่ 2 เมษายน ค.ศ.1888 หอคอยขึ้นสู่ยอดฟ้าของกรุงปารีส เหมือนได้นำเอาจิตวิญญาณของฝรั่งเศสขึ้นไปด้วย ผู้คนชื่นชอบมัน จากการออกแบบโครงร่างอย่างคร่าว ๆ บัดนี้ได้แสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์อันลื่นไหล ความอ่อนช้อยของ โครงสร้าง ส่วนโค้ง แนวประดับต่างๆ ทำให้มีความรู้สึกที่ตรงข้ามกับแนวหมุดที่ยึดเปลือย และหยาบกระด้าง นี่เป็นงานศิลปะ ที่จะบอกให้โลกรับการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่

        กุสตาฟ ไอเฟล เป็นคนแรกที่เดินขึ้นบันได 1,710 ขั้น เพื่อขึ้นไปที่จุดสูงสุดของหอคอย แล้วแขวนธงชาติ 3 สีของ ฝรั่งเศส มีการเปิดงานแสดงสินค้าในปี ค.ศ.1889 ในกรุงปารีส งานชิ้นเอก คือหอคอยที่สูงกว่า 300 เมตรที่งดงาม และ ในที่สุด มันจะเป็นที่รู้จักในนาม หอไอเฟล
         ตอนแรกหอคอยถูกเรียกว่า หอคอยแห่ง 320 เมตร , หอคอย 320 เมตร ต่อมามันก็กลายเป็น หอไอเฟล หอไอเฟล ถูกวางในพื้นที่ราบเรียบของปารีส และก็ ทำรายได้มหาศาลให้กับ กุสตาฟ ไอเฟล เนื่องจากความมั่นใจถึงความสำเร็จของเขา กุสตาฟ ไอเฟล ได้ออกเงินในการก่อสร้างกว่า 80% และทำสัญญาเป็นผู้ดูแลหอนี้เป็นเวลา 20 ปี กุสตาฟ ไอเฟล มีห้องพัก อยู่ ู่บนหอคอย ที่ซึ่งเขาทำการทดลองทางวิทยาศาสตร์ และพบปะแขกคนสำคัญ ในปีแรก นักท่องเที่ยวกว่า 2 ล้านคน เดินทาง ขึ้นลิฟท์เพื่อชมทัศนียภาพของปารีสบนยอดหอคอย ก่อให้เกิดรายได้กว่า 1 ล้านดอลลาร์

        กุสตาฟ ไอเฟล มีรายได้มาจากหอไอเฟลมาก เขาอาจเป็นวีรบุรุษของฝรั่งเศสในปี ค.ศ.1889 แต่อีก 1 ปี หลังจากนั้น เขาถูกตัดสินให้มีความผิด ในการหากำไรกับความล้มเหลวของฝรั่งเศสในการก่อสร้างคลองปานามา โครงการนี้เป็นความ ฝัน ของวิศวกรชาวฝรั่งเศสชื่อ เฟอร์ดินาน เดอ เลเซต ซึ่งประสบความสำเร็จในการสร้างคลองสุเอด และตั้งใจจะทำเช่น นี้อีก ในปานามา เดอ เลเซต ได้เชิญ ไอเฟล มาให้คำแนะนำในทางวิศวกรรมในการสร้างทางน้ำผ่านป่าทึบ ไอเฟล ได้เสนอแนวคิด ระบบปิดกันน้ำแบบใหม่ แต่ เดอ เลเซต ไม่เห็นด้วย ผลที่ตามมาคือหายนะ การขุดคลอดไม่สามารถทำผ่านป่าทึบได้ รัฐบาล ฝรั่งเศสแทบล้มละลาย ผลกระทบทางการเมืองรุนแรงมาก ผู้ที่เกี่ยวข้องถูกประนาม และ ไอเฟลก็ถูกตัดสินจำคุก 24 เดือน ซึ่งภายหลังถูกยกเลิก แต่บัดนี้ ไอเฟล ก็หมดความปรารถนาในการก่อสร้าง และไม่ได้สร้างอะไรอีกเลย
         ขณะนั้น ไอเฟล มีอายุ 73 ปี และได้อุทิศตนให้กับงานด้านวิทยาศาสตร์ โดยให้ความสำคัญกับการค้นคว้าเกี่ยวกับ อากาศพลศาสตร์ และ ได้สร้างห้องทดลองของตนขึ้นและ ยังคงเปิดทำการจนถึงทุกวันนี้ กุสตาฟ ไอเฟล ทดสอบแรงต้าน ทาน ของลมเป็นครั้งแรก เพราะตลอดเวลาการทำงานที่ผ่านมาของเขา ลมคือศัตรูหมายหนึ่ง ในช่วง ค.ศ. 1906-1909 ไอเฟล ตั้งคำถามมากมายเกี่ยวกับอากาศพลศาสตร์ และได้สร้างอุโมงค์ลมขึ้นเป็นแห่งแรก และเป็นจุดกำเนิด ของการศึกษาด้านการบิน ของฝรั่งเศส
         กุสตาฟ ไอเฟล เป็นวิศวกรที่ยอดเยี่ยมและเป็นผู้มีวิสัยทัศน์ในการสร้างหอคอยสูง 300 เมตร ในตอนแรก มีความตั้งใจ ว่าหอคอยนี้ จะมีอายุการใช้งานเพียง 20 ปี เขาเริ่มคุ้นเคยกับสถานะภาพชั้นสูงของปารีส และต่อมาเขาพยายาม อย่างมาก ในการ รักษาหอคอยเอาไว้ วิทยุเป็นสิ่งที่รักษาหอคอยเอาไว้ เนื่องจากความสูงของมัน สัญญาณวิทยุสามารถส่งไปถึงอเมริกาเหนือได้ ถึงแม้ต่อมาก็มีคำสั่งให้รื้อทิ้งในปี ค.ศ.1909 แต่หอไอเฟลก็รอดพ้นมาได้ โดย ช่วยเป็นเสาวิทยุให้ฝรั่งเศสติดตามสงคราม ท่ กำลัง ก่อตัวขึ้นในเยอรมนี
          ในปี ค.ศ.1914 สงครามโลกครั้งที่ 1 ก็เริ่มขึ้น ผลกระทบแผ่ขยายไปทั่วยุโรป สำหรับปารีสนั้น ความขัดแย้งอยู่ใกล้มาก จนทหารต้องนั่งแท็กซี่ไปยังแนวหน้า แต่ด้วยความช่วยเหลือของหอไอเฟลนั้น ก็ช่วยให้บรรดา นายพลทำการดักฟังฝ่าย ศัตรู ูและแจ้ง เตือนภัยจากเรือเหาะได้


         ในปี ค.ศ.1923 หลังจากสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 1 ได้ 5 ปี กุสตาฟ ไอเฟล ได้เสียชีวิตลง ตลอดอายุ 91 ปี วิสัยทัศน์ ของเขาได้ผลักดันให้ฝรั่งเศสอยู่ในแถวหน้าของ -เทคโนโลยี การออกแบบและโครงสร้าง ของเขาเป็นบทนำสู่พื้นฐาน สู่ศตวรรษที่ 20 หอไอเฟลยังคงยืนหยัดมาได้ เป็นหอที่เกิดจากการถักทอของโลหะ และ อากาศภายใน เกิดความรู้สึกที่ว่างเปล่า ความแข็ง แกร่งของหอคอย เหมือนเป็นโซ่ที่เชื่อมระหว่างศตวรรษที่ 19 และ 20 เข้าไว้ด้วยกัน รอยต่อซึ่งจะถูกทำลาย อย่าง เหี้ยมโหด ด้วยลัทธิชาตินิยม การเหยียดเผ่าพันธุ์ ประทุออกจากความพ่ายแพ้ของเยอรมันหลังสงครามโลกครั้งที่ 1
          พฤษภาคม ค.ศ.1940 ท่ามกลางการโจมตีอย่างสายฟ้าแลบของกองทัพนาซี ปารีสและหอไอเฟลถูกตกเป็นเชลย แต่กองทัพเยอรมันพบอุปสรรค์ในการใช้ประโยชน์จากหอไอเฟล เนื่องจากชาวฝรั่งเศสทำลิฟท์เสียหาย ทำให้ฮิตเลอร์ ไม่สามารถ ขึ้นไปบนหอคอยได้
         ชาวปารีสมีความโกรธแค้นต่อนาซีมาก กลุ่มปลดปล่อยฝรั่งเศสได้วางแผนกันอย่างลับๆ ในสุสานใต้ดินของชาวโรมัน ใต้ท้องถนนของกรุงปารีส ที่เป็นอุโมงค์ที่เชื่อมไปทั่วปารีส ทำให้การเดินทางไปที่ต่างๆ ไม่สามารถตรวจพบได้ กลุ่มต่อต้าน ได้ช่วยทำให้รถไฟขนส่งทหารตกรางซึ่งวิ่งอ้อมกรุงปารีสอยู่ ฮิตเลอร์นั้นมีความรู้สึกเกลียดชังกลุ่มปลดปล่อยนี้มาก ขณะที่ สงคราม ยุติ เขาได้ออกคำสั่งให้ระเบิดหอคอยนี้ทิ้ง แต่นายพล ฟรอน โทริส ผู้ซึ่งตกหลุมรักกรุงปารีสได้ยกเลิกคำสั่งนี้โดยพลการ
         การยกพลขึ้นบกในวัน D-Day ที่ชายฝั่งฝรั่งเศสของเหล่ากองกำลังฝ่ายสัมพันธมิตรเพื่อการปลดปล่อยฝรั่งเศส และ กองทัพรถถังอเมริกัน ก็ได้ขับไล่พวกนาซีออกจากหอไอเฟล รัฐบาลฝรั่งเศสอยู่ในช่วงล่มลาย ในปี ค.ศ.1945-1960 ผู้คน ชาว ฝรั่งเศสออกเสียงเลือกตั้งคณะรัฐบาลที่แตกต่างกันถึง 20 คณะ มันเป็นความยุ่งเหยิงทางการเมือง จนกระทั่งนายพลเดอกอล ถูกเชิญชวนให้เป็นผู้นำประเทศภายหลังสงคราม บุคคลที่เข็มแข็งและมีความดึงดูดเท่านั้นที่จะรวบรวมประเทศ และคืนจิต วิญญาณให้กับฝรั่งเศสได้อีกครั้งหนึ่ง จิตวิญญาณของประเทศ ได้รับการปกป้องเสมอมา ภายในกรงเหล็กของหอไอเฟล หอไอเฟล ต้องการการดูแลรักษา หากต้องการให้มันยังคงอยู่ต่อไป
        มันถูกออกแบบให้เป็นผลงานชิ้นเอกในงานแสดงสินค้านานาชาติในปี ค.ศ.1889 บัดนี้นับกว่า 1 ศตวรรษการฉลอง ยังคงดำเนินต่อไป ขณะที่ผู้คนมากกว่า 1 พันคนได้มา เยี่ยมชมหอไอเฟลทุกๆ ชั่วโมง โดยมีลิฟท์ 4 ตัว ลิฟท์ 1 ตัวต่อ 1 ขา เคลื่อนที่ทำมุม 60 องศา หัวใจสำคัญในการเคลื่อนที่อยู่ภายใต้ขาหอคอยภายในสุสานใต้ดินนับร้อยปี โดยใช้น้ำภายใต ้แรงดัน เป็นตัวขับลูกสูบไปผลักล้อเลื่อนให้ดึงสายเคเบิลขึ้นไป เทคโนโลยีอายุร้อยปีถูกหล่อลื่นด้วยไขมันแกะและยังทำงานได้อย่างดี และลิฟท์ที่ชั้น 3 จะขนผู้โดยสายขึ้นไปบนยอดหอคอย
         ที่บนสุด งานบำรุงรักษาดำเนินงานทุกวัน กลุ่มคนงาน 25 คนจะเดินไปตามนั่งร้านเหล็ก ซึ่งมีระยะเวลาดำเนินงาน 18 เดือน ในการทาสีหอคอย ได้ใช้สีมากกว่า 50 ตัน - งานที่ต้องทำซ้ำๆ ในทุกๆ 7 ปี ไม่เพียงแต่ช่างทาสีที่อยู่บนหอคอยนี้เท่านั้น ช่างไฟฟ้าก็เดินดูตรวจตราหอคอยนี้ด้วยเหมือนกัน เพราะมันจะต้องมีแผงทำความร้อน เพื่อควบคุมอุณหภูมิน้ำในท่อ ไม่ให้แข็ง เพื่อป้องกันไม่ให้ท่อแตกเมื่ออุณหภูมิต่ำว่า -40 องศาฟาเรนไฮด์ และต้องดูแลหลอดไฟ 360 หลอด ซึ่งได้รับการตรวจสอบ และทำการเปลี่ยนเป็นประจำ เพื่อความสวยงามของหอคอย สีทีทาบนหอไอเฟล จะมีโทนสีเหลือง และการที่ถูกส่อง ด้วย ไฟ สีเหลือง ก็จะช่วยให้หอไอเฟล ถูกขับออกมาให้เด่นชัดมากขึ้น การให้แสงสว่างก็เพื่อให้หอไอเฟลเป็นดาวเด่นแห่งกรุงปารีส



  • พ.ศ. 2432(ค.ศ. 1889) หอคอยได้สร้างเสร็จ และเป็น 1 ในสิ่งก่อสร้างในงาน EXPO
  • พ.ศ. 2473(ค.ศ. 1930) หอเสียตำแหน่งสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลก ให้แก่ตึกไครสเลอร์
  • ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2468-พ.ศ. 2477(ค.ศ. 1925-1934) ประดับไฟ 3 ด้านใน 4 ด้านของหอ
  • พ.ศ. 2483(ค.ศ. 1940) เมื่อนาซีเยอรมันสามารถยึดปารีสได้แล้ว ชาวฝรั่งเศสได้ตัดลิฟท์ออก ทำให้ฮิตเลอร์ต้องปีนบันได 1,665 ขั้น แต่เขาไม่ปีน เขาให้เอาธงเยอรมันไปปักไว้บนหอแทน
  • พ.ศ. 2487(ค.ศ. 1944) เดือนสิงหาคม ฮิตเลอร์สั่ง Dietrich von Choltitz ให้เผาเมืองปารีส และหอทิ้ง แต่เขากลับฝืนคำสั่งไม่เผา เพราะว่าเขาเสียดายเมือง
  • พ.ศ. 2499(ค.ศ. 1956) วันที่3 มกราคม ไฟไหม้ยอดของหอ และในปีเดียวกันนั้นก็ได้นำเสาอากาศวิทยุไปติ้งตั้งบนยอดด้วย
  • ทศวรรษที่ 1980 ได้มีการเคลื่อนย้ายรื้อร้านอาหารที่เก่าแก่ในหอออก ไปสร้างใหม่ในเมืองนิวออร์ลีนส์ รัฐหลุยเซียนาสหรัฐอเมริกาแทน
  • พ.ศ. 2543(ค.ศ. 2000) ได้มีการติดตั้งโคมไฟบนยอดของหอ
  • พ.ศ. 2545(ค.ศ. 2002) วันที่28 พฤศจิกายน หอไอเฟลต้อนรับแขกคนที่ 200 ล้าน
  • พ.ศ. 2546(ค.ศ. 2003) วันที่22 กรกฎาคม ไฟไหม้ยอดของหอ ในห้องเก็บของอีกครั้ง ใช้เวลาดับไฟประมาณ 40 นาที

อ้างอิงจาก
http://www.panyathai.or.th/wiki/index.php/%E0%B8%AB%E0%B8%AD%E0%B9%84%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%9F%E0%B8%A5

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น